วิธีสร้าง Passive Income ฉบับ อาจารย์อั๋น

วิธีสร้าง Passive Income ตั้ง เป้าหมาย และ รายได้

 ลุยทางลัด สลัดวงจรอุบาท

ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ จากคนที่มาปรึกษาครับ

ทำ > ท้อ > หยุด > เห็นเงิน > ทำ

วงจรนี้เป็นปกติของทุกคนที่ต้องเจอครับ

ทางลัดที่จะช่วยขจัดวงจรนี้เพื่อนำไปสู่การสร้าง Passive Income คือ 

ระยะแรก 30-90 วัน
ลุยแบบไม่กลัวเลอะ

คิดน้อย = จำกัดเวลาในการคิด ว่าจะทำอะไร

ทำเยอะ = ลุย ลงมือทำให้ต่อเนื่อง หลังจากคิดน้อยแล้ว

หลับตาข้างนึง = ไม่มองผลจากการทำ แบบทุกวัน แต่นานๆ มองที สักอาทิตย์นึงค่อยไปดู sale dashboard

เป้าหมายของระยะแรกคือ
รายได้ $1000 ต่อเดือน

ในระยะนี้ เกิดวงจรที่กล่าวถึงด้านบนได้ง่ายมากๆ ดังนั้น หากอยากจะลัดวงจร อย่าใส่ใจกับผลลัพธ์มากนัก เน้นแค่ว่า เราจะทำอะไร แล้วลุยให้เต็มที่ ซึ่ง การใช้เวลาของแต่ละคนนั้นอาจจะหลุดพ้นระยะนี้ได้ เร็ว – ช้า ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความ “สามารถ” และความ เข้าใจ


ระยะที่สอง 90-180 วัน
เปรอะอย่างมีศักดิ์ศรี

คิดละเอียด = ใช้เวลาในการคิด ในการดู ให้มากขึ้น มองให้ลึกถึงองค์ประกอบหลักและเข้าใจให้ลึกถึงความต้องการของลูกค้า

ละเมียดการทำ = ทำช้าลง แต่เน้นคุณภาพในการทำให้มากขึ้น ใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการทำ หมั่นคิดถึงลูกค้าว่า เมื่อเขาได้ใช้งาน จะรู้สึกอย่างไร

เปิดตาให้กว้าง = การดูผล การวัดผลจากสิ่งที่ได้ทำไปนั้น มีความสำคัญมาก ต้องเปิดตาให้กว้างและพยายามเข้าใจว่า ผลงานที่ทำสร้างผลลัพธ์อย่างไร

สร้าง Connection = สร้างช่องทางที่ช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้ากับเรา ทำให้ลูกค้าสามารถ “เข้าถึง” และ “เข้าใจ” งานของเราได้มากขึ้น

เป้าหมายของระยะที่สองนี้คือ
รายได้ $3000 ต่อเดือน

ในระยะนี้เน้นทำงานให้ ช้าลง แต่เน้นงานที่มีคุณภาพมากขึ้น คุณภาพที่ว่า เกิดจากสังเกตและการสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งพยายามใช้ความคิดเห็นของลูกค้าเป็นตัวนำในการสร้างงาน


ระยะที่สาม 180วัน – 1 ปี

มั่งมี อย่างมีความสุข

เข้าใจให้ลึกซึ้ง = เวลาที่เราดูข้อมูลที่เลื่อนไหลผ่านทุกช่องทาง ความละเอียดในการมอง มันไม่เพียงพอแล้ว ในขั้นนี้ เราต้องสร้างความเข้าใจ ในข้อมูลที่ไหลผ่านเข้ามา เข้าใจ ใน “เหตุ” และ “ผล” ของมัน จะทำให้เราสามารถสร้าง “ผลลัพธ์” ที่ต้องการได้

ทำอย่างเป็นระบบ = พยายามสร้างระบบในการทำงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการเวลา, งาน หรือการจัดการสิ่งต่างๆ ที่เราต้องทำหรือไม่อยากทำ แยกออกเป็นชิ้นๆ และเลือกทำในสิ่งที่เราอยากทำ บางอย่าง ไม่จำเป็นต้องทำเอง อาจหาเครื่องทุ่นแรงมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน หรือ ระบบอื่นๆ ที่เหมาะสม ช่วยลดเวลาในการทำงานของเรา

สัมผัสถึงความสุข = ทุกครั้งที่ทำงาน นอกจากคุณภาพของงานที่ต้องคำนึงแล้ว ควรมองลึกไปถึง “ความสุข” ที่ “ตัวเรา” เป็นคนสร้างงานขึ้น แต่หากยังพบว่า เราไม่ได้มีความสุขมากนั้น อยากให้มองมุมกลับไปถึง “ความสุข” ที่”ลูกค้า” จะได้รับ จากการได้สัมผัส หรือใช้งาน ในสิ่งที่เราทำ เมื่อสัมผัสได้ ความสุขนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเรา และทำให้เรารู้สึก รัก และมีความ “อยาก” ที่จะทำงานออกมาให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

แบ่งปันความสุขให้คนรอบข้าง = ในการทำงาน หากเรามุ่งทำงานเพียงอย่างเดียว ความเครียดสะสมจะเกิดขึ้นได้ง่าย และทำให้เราขาดแคลนความสุขโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เราอาจหาเพื่อนร่วมอาชีพ หรือเพื่อนสนิท ที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ในการทำงาน อาจมีกิจกรรมต่างๆ ที่ทำร่วมกัน ซึ่งนอกจากช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เราเกิดความกระตือรือร้น ที่จะพัฒนางานของเราอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายของระยะนี้คือ
รายได้ และความสุข เท่าที่ต้องการ


สิ่งที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เกิดจาก ประสบการณ์ตรงที่ผมและเพื่อนร่วมอาชีพท่านอื่นๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมไปถึง ลูกศิษย์ ที่ประสบความสำเร็จในสายงานนี้

ที่สำคัญ ผมเชื่อว่า แนวทางนี้ สามารถประยุกต์ได้ในหลายๆ สาขาอาชีพ โดยอาจปรับเรื่องเวลาและเป้าหมาย รวมถึงกระบวนการทำงานให้เหมาะสมในแต่ละระยะ ซึ่งจะช่วยให้เรามีกรอบในการทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขครับ

http://www.passivecreator.com https://www.facebook.com/ebookcourse/

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.